3 วิธีการสุดง่าย | ในการ Migrate Server ไปยัง Cloud
โดยปกติเเล้วทุกๆบริษัทจะต้องมี Server ที่ติดตั้ง Application หรือ Database ที่ทำให้ User ทั่วไปสามารถเข้าใช้งานได้
แต่การซื้อ Server เข้าไปติดตั้งจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น เวลาการรับประกัน Server จากผู้ผลิตหรือคู่ค้าจะอยู่ได้นานแค่ประมาณ 3 – 5 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นจะต้องเสียค่า Maintenance หรือเรียกง่ายๆว่า ค่า MA
ดังนั้นข้อดีของการ Migrate ไป Cloud Server ก็คือผู้ใช้งานจะไม่ต้องเสียค่า MA เนื่องจากลูกค้าเป็นแค่ผู้ใช้งาน Server เท่านั้น
หากตัดสินใจได้เเล้วว่าต้องการย้าย Server ไปยัง Cloud อันดับแรกคือต้องศึกษาก่อนว่า Server ที่ใช้งานถูกติดตั้งไว้เป็นแบบไหนโดยสามารถถามจากผู้ Implement Server ได้เลย
Server จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่
- Bare-metal คือการติดตั้ง OS ลง Hardware แบบตรงๆ เเล้วติดตั้ง Application ลงใน OS อีกทีนึง
- Virtualization คือการติดตั้ง Hypervisor ก่อน เเล้วค่อนแบ่ง Server ย่อยๆภายใน โดยเรียก Server ย่อยๆที่อยู่ภายใน Hypervisor ว่า Virtual Machine หรือ VM
หลังจากที่รู้ว่า Server ที่ใช้อยู่แบบเป็นไหนก็จะสามารถเรียนรู้วิธีการ Migrate ที่ถูกต้องได้
วิธี Migrate จาก Bare-metal ไปยัง Cloud Server
วิธีนี้เรียกว่า P2V ที่ย่อมาจาก Physical to Virtual โดยทางผู้ใช้บริการ Cloud จะนำ Server ที่ติดตั้ง VMware Converter ไปเชื่อมต่อเข้ากับ Physical Server โดยทำการ Assign IP ให้อยู่ในวงจร LAN เดียวกันกับ Physical Server ของผู้ใช้งาน และจะทำการ Convert วิธีนี้สามารถทำได้โดยที่ลูกค้ายังสามารถใช้งาน Server ได้ตามปกติ
หลังจากทำการ Convert เเล้ว จะได้ไฟล์ออกมาใน 2 รูปแบบ ได้แก่
- ไฟล์นามสกุล vmx ที่ย่อมาจาก Virtual Machine Extension ซึ่งเป็นไฟล์ Config ประเภทหนึ่งของ VMware
- ไฟล์นามสกุล vmdk ที่ย่อมาจาก Virtual Machine Disk ซึ่งเป็นไฟล์ของ Hard Disk
เมื่อได้ไฟล์ทั้ง 2 ชนิดมาเเล้ว ทาง Cloud ก็จะทำการนำเข้าไฟล์ทั้ง 2 เพื่อสร้างเป็น VM ให้ลูกค้าใช้งานได้ต่อไป
วิธี Migrate จาก Virtualization ไปยัง Cloud Server
สำหรับวิธีการนี้คือการ Export File ออกมา สามารถเลือกจาก 2 รูปแบบได้แก่
- ไฟล์ OVF จะถูก Export ออกมาเป็น Folder ที่มีไฟล์นามสกุล vmx และ vmdk
- ไฟล์ OVA จากถูก Export ออกมาเป็นไฟล์เดียว
โดยวิธีการนี้จะต้องทำการปิดเครื่องเพื่อที่จะ Export ไฟล์ออกมา แต่สำหรับใครที่ไม่อยากปิด VM Production ที่กำลังใช้งานอยู่
ก็สามารถสร้าง VM ที่มี Spec เท่ากับ VM ที่จะ Migrate ได้ หากมีพื้นที่ Computer และ Disk ที่เพียงพอ หรือสามารถใช้การ Clone VM เเล้ว Export จาก Clone VM อีกทีได้เหมือนกัน หลังจากที่ได้ไฟล์เเล้วก็ทำการส่งให้ Ready Cloud เพื่อนำไป Import เป็น VM เพื่อการใช้งานต่อไป
อีกวิธีหนึ่งที่คนเริ่มหันมานิยมกันมากก็คือ การใช้โปรเเกรม Veeam Backup & Replication ซึ่งจะเหมาะมากหากมี Veeam Server อยู่เเล้ว ก็จะ Migrate ไปยัง Cloud ได้ง่ายขึ้น และ Sync ข้อมูลให้เป็นปัจจุบันก่อนที่จะ Cut-off ได้ง่ายกว่าแบบอื่นๆ
ขั้นตอนการ Migrate โดยใช้โปรเเกรม Veeam Backup & Replication ไปยัง Cloud Server
- ติดตั้ง Veeam Server เเละ ทำการ Add ESxi หรือ vCenter ที่มี VM ตัวที่ต้องการ Migrate อยู่ข้างใน
- รับข้อมูล Service Provider จาก Cloud เพื่อทำการ Add Service Provider เข้าไปใน Veeam Server หลังจากที่ Add เเล้วจะพบข้อมูลที่ Ready Cloud เตรียมแหล่ง Resource จำพวก Computer และ Storage เอาไว้ให้ลูกค้า สำหรับการ Replicate VM มาไว้ที่ Ready Cloud
- หลักจาก Add Service Provider เเล้ว ลูกค้าจะต้องสร้าง Replication Job เพื่อทำการ Replicate VM มาที่ Ready Cloud
- เมื่อสร้าง Replication Job เรียบร้อยเเล้ว ให้คลิกที่ Replication Job เพื่อทำการ Replication ในครั้งแรก ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลานาน เพราะเป็นการ Tranfer data ทั้งหมดที่มีใน VM
ขั้นตอนการ Cut-off
- ให้กดที่ Replication Job เพื่อทำการ Run อีกรอบนึง และรอจนกว่า Replicate เสร็จ ซึ่งครั้งนี้จะใช้เวลาน้อยกว่าครั้งแรก
- หลังจากนั้นทาง Ready Cloud จะทำการ Power On VM ให้พร้อมใช้งานได้ทันที
โดยวิธีการนี้จะไม่กระทบกับการทำงานของ Production VM เเละยังสามารถ Sync Data ได้ง่ายมากๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับการ Migrate Server To Cloud หลังจากอ่านบทความนี้จบ หลายๆท่านคงได้ไอเดียในการไปปรับใช้กับบริษัทของตัวเองกันอย่างแน่นอน
หากใครกำลังมองหาบริการ Server ที่ได้มาตรฐานมีประสิทธิภาพบริการแบบ 24×7 เราขอแนะนําบริการ Server จาก ReadyIDC
“READY IDC”
ยินดีเป็นผู้ช่วยคนใหม่…ให้คุณ
สนใจติดต่อหรือสอบถามรายละเอียดการให้บริการเพิ่มเติมได้ทาง
Email: [email protected] หรือ www.readyidc.com